Sustainability Management in The Environment Aspect

นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม

บริษัทใส่ใจในความปลอดภัย และสุขอนามัยของบุคลากรของบริษัท และชุมชนโดยรอบสถานประกอบการ บริษัทฯมุ่งส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกทางด้านคุณภาพความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมให้เป็นวิถีดำเนินชีวิตประจำวันของบุคลากรของบริษัท เพื่อประโยชน์ของทุกคน รวมทั้งชุมชนและสังคมโดยรวมถึง สนับสนุนและมุ่งเน้นการปลูกฝังจิตสำนึกแก่พนักงานในการใช้ทรัพยากรให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุด ในอันที่จะส่งผลต่อเนื่องในการสร้างนิสัย และนำไปปรับใช้ที่บ้าน รวมทั้งยังคาดหวังผลพลอยได้ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมี ประสิทธิภาพในระดับประเทศ โดยสื่อสารการสร้างจิตสำนึกด้านการใช้ทรัพยากร

นอกจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และส่งมอบผลิตภัณฑ์ รวมถึงการบริการที่ดีเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับการเป็นส่วนหนึ่งกับชุมชนในท้องถิ่น และร่วมสร้างความยั่งยืนในภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย บริษัทจึงนำแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม "GrowGreen" ของ เครือแอสเซทไวส์ มาต่อยอดในการยกระดับโครงการที่อยู่อาศัยและชุมชนโดยรอบสู่ความยั่งยืน ด้วยการผสานพลังความร่วมมือจาก 3 ฝ่าย คือ ภายในองค์กร พันธมิตร เจ้าของร่วมและผู้พักอาศัย มาทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมกันอย่างต่อเนื่อง

โดย บริษัทได้นำแนวคิด GrowGreen มาสานต่อใช้ในโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ "เดอะ ไทเทิล" (THE TITLE) มีแนวปฏิบัตินโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม ดังนี้

1. Green Space : การให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวในโครงการ
  • พื้นที่ส่วนกลางร่มรื่นเกิดประโยชน์ใช้สอยได้
  • รักษาต้นไม้เดิมและพร้อมเพิ่มพื้นที่ใหม่

โดยมีรายละเอียดของแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

  • Tree Protection : การรักษาต้นไม้บนที่ดินเดิมไว้ภายในโครงการ และใช้ประโยชน์จากร่มเงาของต้นไม้
  • More Trees & Greenery : การออกแบบงานภูมิสถาปัตย์ที่ให้ความสำคัญ กับพื้นที่สีเขียว พื้นที่สวนขนาดใหญ่ ภายในโครงการ
2. Energy Efficiency : ออกแบบการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ
  • การออกแบบที่คำนึงถึงทิศทางลม และแสง ช่วยลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า
  • ใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเครื่องมือการออกแบบ และเทคโนโลยี

โดยมีรายละเอียดของแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

  • EV Station : ออกแบบโครงการ โดยให้มีช่องจอดสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
3. Waste Management : การบริหารจัดการของเสียอย่างยั่งยืน
  • สนับสนุนให้มีกิจกรรมรณรงค์เรื่องการแยกขยะ
  • ลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นน้ำ

โดยมีรายละเอียดของแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

  • สร้างความเข้าใจให้กับพนักงานในองค์กร ซึ่งได้ใช้หลักแนวคิด 3Rs มาเพื่อใช้ลดการสร้างขยะในชีวิตประจำวัน ได้แก่ Reduce, Reuse, Recycle
  • ใช้ผนังสำเร็จรูปแทนการใช้อิฐ เพื่อลดปริมาณขยะจากการก่อสร้าง
4. Clean Air : ใส่ใจเรื่องการมีอากาศที่สะอาด
  • ใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ
  • ออกแบบดดยคำนึงถึงทิศทางลม เพื่อให้อากาศหมุนเวียนโดยธรรมชาติ

โดยมีรายละเอียดของแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

  • ออกแบบตอบรับทิศทางลม ช่องลม ช่องแสง ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ
  • เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการโดยเน้นที่พรรณพืชที่ช่วยกรองอากาศ
5. Water Management : ใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  • ออกแบบระบบการใช้น้ำภายในโครงการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อลดมลภาวะก่อนปล่อยทิ้ง

โดยมีรายละเอียดของแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

  • ออกแบบภูมิทัศน์เพื่อนำน้ำฝนกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีระบบการใช้น้ำในอาคาร
  • มีบ่อบำบัดน้ำเสีย ก่อนปล่อยออกสู่ภายนอกโครงการ
สรุปเป้าหมายและผลการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม

การจัดการพลังงาน

เป้าหมาย

ลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าในสำนักงานใหญ่ สำนักงานภูเก็ต
ร้อยละ 5
เมื่อเทียบกับปี 2566

ผลการดำเนินงาน

ค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 24
เมื่อเทียบกับฐานปี 2566

การจัดการน้ำ

เป้าหมาย

ลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำประปาภายในสำนักงานใหญ่, สำนักงานภูเก็ตลดลง
ร้อยละ 5
เมื่อเทียบกับฐานปี 2566

ผลการดำเนินงาน

ค่าใช้จ่ายน้ำประปาลดลง
ร้อยละ 54
เมื่อเทียบกับฐานปี 2566

ในปี 2567 บริษัทมีค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับฐานปี 2566 ซึ่งไม่เป็นไปตามที่กำหนดเป้าหมายค่าใช้จ่ายการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในสำนักงาน เนื่องจากภายในปี 2566 มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนพนักงาน และการเพิ่มขึ้นของจำนวนสำนักงานขายของบริษัทอย่าง มีนัยสำคัญ

ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม

บริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยทั้งผ่านกระบวนการทำงาน และผ่านกิจกรรมต่างๆดังนี้

การดำเนินการเพื่อลดผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

การก่อสร้างอาคารและการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ของโครงการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่่ 2) พ .ศ. 2561 โดยบริษัทฯ ให้ความสำคัญและตระหนักถึงผลกระทบจากการดำเนินโครงการต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบอยู่เสมอ จึงได้กำหนดเป็นนโยบายที่ชัดเจนให้มีการยึดถือและปฏิบัติตามมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด รวมถึงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ไม่มีประเด็นเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญในการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด

การดำเนินการเพื่อลดผลกระทบด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

บริษัทให้ความดูแลใส่ใจต่อการป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยก้าวไปอีกขั้นด้วยนโยบาย ESG (Environmental Social Governance) ยึดหลักเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดภาะโลกร้อน ลดวิกฤตดินน้ำอากาศ ประหยัดพลังงาน ลดก๊าซเรือนกระจกใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยต้องรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมสุขภาวะ สุขอนามัยชุมชน และใช้หลักกระบวนการ Recycle อย่างจริงจัง

การบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

การจัดการพลังงานไฟฟ้าภายในสำนักงาน

พลังงานไฟฟ้าถือเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดการใช้พลังงานภายในสำนักงานจึงได้มีการรณรงค์และส่งเสริมการพลังงานทางอ้อม เช่น การประหยัดไฟฟ้าภายในสำนักงาน โดยกำหนดพื้นที่เปิด-ปิดไฟตามความจำเป็น ใช้หลอดไฟ LED ทั้้งสำนักงาน การปิดไฟที่่ไม่จำเป็นและปิดในช่วงพักกลางวัน การปิดแอร์ช่วงพักกลางวัน เพื่อให้พนักงานทุกคนตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น

การจัดการน้ำ

บริษัทให้ความสำคัญและคำนึงถึงการใช้น้ำ อย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยดำเนินการรณรงค์ให้พนักงานใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เลือกใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ การตรวจสอบอุปกรณ์ประปาอย่างต่อเนื่อง มีบ่อบำบัดน้ำเสีย ก่อนปล่อยออกสู่ภายนอกโครงการ

การจัดการขยะ ของเสีย และมลพิษ

การจัดการของเสียและมลภาวระที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ

บริษัทให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และการปฏิบัติตามมาตรฐานการจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการดำเนินงาน โดยเฉพาะพื้นที่โครงการก่อสร้าง บริษัทให้ความสำคัญในการป้องกันมลภาวะต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น อาทิ การป้องกันมลภาวะด้านเสียงที่อาจก่อให้เกิดความรำคาญต่อชุมชนโดยรอบ การจัดการคมนาคมขนส่งอาจก่อให้เกิดจราจรแออัดในพื้นที่ชุมชนโดยรอบ การป้องกันและลดปริมาณฝุ่นละออง และการลดปริมาณขยะจากงานก่อสร้าง เราจึงให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบ และขั้นตอนกระบวนการก่อสร้างที่ใช้เทคนิควิธีการเพื่อลดเศษวัสดุเหลือใช้จากงานก่อสร้างให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดจากกระบวนการดำเนินงานของบริษัท

สำหรับโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ บริษัทได้จัดให้มีห้องพักขยะประจำชั้นพักอาศัย และบริเวณโครงการจะมีจุดแยกประเภทขยะ ได้แก่ ถังขยะเปียก ถังขยะทั่วไป ถังขยะรีไซเคิล ถังขยะอันตราย และ ถังขยะติดเชื้อ โดยจัดให้มีถังขยะที่แบ่งสีตามประเภท รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้พักอาศัยคัดแยกขยะ ทั้งนี้ในการจัดเก็บขยะในโครงการจะจัดแยกประเภทก่อนขนย้ายเพื่อสำหรับนำไปทิ้งต่อไป

การจัดแยกขยะภายในสำนักงาน

บริษัทตระหนักถึงการจัดการขยะ และลดการเกิดขยะภายในสำนักงานมีการจัดการของเสียแยกตามประเภทของเสียตามที่กฎหมายกำหนด โดยทางบริษัทได้มีจุดคัดแยกขยะตามประเภทอย่างเป็นระเบียบ มีฝาปิดมิดชิดในพื้นที่ที่เหมาะสม รวมถึงสร้างความเข้าใจให้กับพนักงานในองค์กร ซึ่งได้ใช้หลักแนวคิด 3Rs มาเพื่อใช้ลดการสร้างขยะในชีวิตประจำวัน ได้แก่

Reduce - ลดการใช้

  • ใช้อีเมล์เพื่อลดการใช้กระดาษ
  • คิดก่อนพิมพ์หรือถ่ายสำเนา พิมพ์และทำสำเนาให้น้อยที่สุด
  • ใช้เทคโนโลยีทดแทนเพื่อลดการใช้กระดาษ
  • ใช้ถุงผ้า เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก
  • ใช้ปิ่นโต หรือกล่องข้าวใส่อาหาร แทนการใส่กล่องโฟม

Reuse - นำกลับมาใช้ซ้ำ

  • ส่งเสริมการลดการใช้บรรจุภัณฑ์เช่น น้ำยาล้างจาน สบู่ล้างมือ กาแฟ เป็นต้น
  • นำขวดแก้วมาล้างทำความสะอาดแล้วมาใช้ซ้ำ
  • บริจาคเสื้อผ้าแทนการทิ้ง
  • การนำกระดาษรายงานที่เขียนแล้ว 1 หน้า มาใช้ในหน้าที่เหลือหรืออาจนำมาทำเป็นกระดาษโน้ต

Recycle - นำกลับมาใช้ใหม่

  • ทิ้งขยะให้ถูกประเภท คัดแยกขยะที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ เช่น กระดาษ โลหะ ขวดน้ำพลาสติก กระป๋อง เพื่อช่วยลดการกำจัดขยะด้วยวิธีฝั่งกลบ
  • เลือกซื้อสินค้าที่นำกลับมารีไซเคิลได้หรือที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล
  • นำขยะอินทรีย์กลับมาใช้ประโยชน์ เช่น ทำปุ๋ยหมัก

นอกจากนี้บริษัทยังตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเลในปัจจุบัน ได้เกิดปัญหาขยะซึ่งเป็นมลพิษทางทะเลส่งผลกระทบต่อความสมดุลทางธรรมชาติ ซึ่งหลายฝ่ายทั่วโลกเริ่มตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่จะตามมาในอนาคต ซึ่งบริษัทฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้เช่นกัน จึงได้เกิดการรวมพลังจากพนักงานและประชาชนจิตอาสาร่วมกันทำความสะอาดเก็บขยะที่หาดในยาง ในทุกๆเดือน เพื่อคืนสภาพสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและสวยงามของประเทศไทยตลอดไป

ในปี 2567 นี้ บริษัทได้มีการจัดกิจกรรมเก็บขยะริมทะเลอยู่เป็นประจำดังนี้

ในวันที่ 8 มิถุนายน 2567 เนื่องในวัน World Ocean Day บริษัทได้ร่วมมือกับ เทศบาล อบต ราไวย์ และ โรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ โดยได้รับความอนุเคราะห์ เรื่องรถเก็บขยะ อุปกรณ์ บุคลากร และน้องๆ เยาวชน เข้ามาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 มีกิจกรรมเก็บขยะหน้าหาดในยาง

ในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ได้มีกิจกรรมอาสาทำความดีเก็บขยะหน้าหาดในยาง

จากกิจกรรมเก็บขยะที่บริษัทจัดขึ้นสามารถรวบรวมขยะได้ 1,814 กิโลกรัม แบ่งแยกเป็นขยะรีไซเคิล 238 กิโลกรัม ขยะอินทรีย์ 1,241 กิโลกรัม ขยะกำพร้า 335 กิโลกรัม ช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนฟุตปริ้นได้ 4,456.71 KgCo2e เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 495 ต้น

การจัดการเพื่อลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก

บริษัทให้ความสำคัญกับการจัดการเพื่อลดปัญหาภาวะเรือนกระจก แต่บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆของบริษัทฯ โดยบริษัทมีแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังนี้

  1. รณรงค์ให้เปิดแอร์ 25 องศา ลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นและบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าในบริษัทฯอย่างสม่ำเสมอ
  2. ส่งเสริมการประหยัดน้ำเปิดใช้เท่าที่จำเป็น ไม่เปิดน้ำทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคต
  3. ส่งเสริมให้ความรู้พนักงานและแม่บ้านเรื่องการคัดแยกขยะ และทิ้งให้ถูกวิธีเพื่อลดการปัญหาการกองรวมกัน เผา ฝังกลบ ล้วนสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือก๊าซมีเทน (CH4) ซึ่งทั้งคู่คือก๊าซเรือนกระจกที่เป็นตัวการสำคัญให้เกิดสภาวะโลกร้อน
  4. สร้างสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ เพิ่มพื้นที่สีเขียวและเลือกใช้สินค้าวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  5. มีพื้นที่ปลูกผักสามารถช่วยลดภาวะโลกร้อน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้และยังมีผักทานสด อร่อย ๆ สะอาด ปลอดภัยจากสารปนเปื้อน และดีต่อสุขภาพทานตลอดปี ส่วนเศษอาหารที่เหลือจากผักต่าง ๆ สามารถนำมารวมกันแล้วไปทำเป็นปุ๋ยได้อีกด้วย
ปิดน้ำ
เมื่อเลิกใช้งาน
ปิดไฟ
ทุกครั้งหลังใช้
เปิด 25 ํC
เย็นกำลังดี

การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Procurement)

บริษัทส่งเสริมกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามแนวทางที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการเลือกใช้สินค้าและวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการจัดซื้อจากหน่วยงานที่ได้ให้การรับรองหรือมีฉลากรับรองว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับใช้ในการดำเนินโครงการก่อสร้าง และใช้ในสำนักงานใหญ่ สำนักงานขายของบริษัท เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มมูลค่าการจัดซื้อสินค้าและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนการดำเนินการดังนี้

  • เพิ่มจำนวนคู่ค้าและรายการสินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และบริการสีเขียวเพื่อเป็นแนวทางในการจัดหาและจัดซื้อ
  • สื่อสารให้แก่คู่ค้าถือแนวทางในการจัดหาและซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ร่วมมือกับคู่ค้าคำนึงถึงการเลือกใช้วัสดุและบริการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ซ้ำได้ การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานในโครงการ

บริษัทยังมีการจัดซื้อจัดจ้าง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผลิตภัณฑ์ที่ได้การใบรับรองฉลากสิ่งแวดล้อมซึ่งมีกระบวนการการผลิตสินค้าที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ กระดาษถ่ายเอกสาร ที่มีกระบวนการผลิตโดยใช้เยื่ออีโคไฟเบอร์แทนเยื่อจากต้นไม้ จึงลดการใช้ต้นไม้ลงได้ถึง 10% , ใช้ผนัง Taxca Wall ฉลากเขียวที่ได้รับการรับรองสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม,ใช้เครื่องถ่ายเอกสารฉลากเขียวตามมาตรฐานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เครื่องปรับอากาศประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นต้น

การเพิ่มพื้นที่สีเขียว

บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจ โดยอยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ในการดำเนินธุรกิจจะมีการปล่อย CO2 ในขั้นตอนต่างๆของกิจกรรมทางธุรกิจ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวจึงเป็นเป้าหมายหนึ่งในการรับผิดชอบเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดจนการสนับสนุนป่าชุมชน บริษัทและพนักงานจึงได้เข้าร่วมกิจกรรมดังนี้

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทยังร่วมกับกองประกวด Mister International Thailand 2024 ในการจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ณ ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศตามแนวชายฝั่ง เนื่องจากป่าชายเลนเป็นแหล่งอาหารและแหล่งขยายพันธุ์ให้กับสัตว์น้ำหลากหลายชนิด ช่วยลดความรุนแรงของการกัดเซาะชายฝั่ง อีกทั้งรากของพืชพันธุ์ในป่าชายเลนยังมีคุณสมบัติในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทให้ความสำคัญกับการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและการดูแลสิ่งแวดล้อม เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนในจังหวัดภูเก็ต ผ่านกิจกรรมที่ส่งเสริมความร่วมมือและความรับผิดชอบร่วมกัน ตามแนวคิด GrowGreen เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกบ้านและคนในท้องถิ่น